สำหรับโครงการ ฝังยาคุม ฟรี …พ.ร.บ.การป้องกันและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น พ.ศ.2559 ได้เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาท้องก่อนวัยอันควร โดยกำหนดให้วัยรุ่นอายุ 10-20 ปี รับบริการ และขอคำปรึกษาได้ฟรีกับโรงพยาบาลทั่วประเทศ
ล่าสุดคุณ สมาชิกท่านนึงได้ออกมาโพสต์รีวิวการฝังยาคุมกำเนิดฟรี ซึ่งเธอเป็นเด็กนักเรียนที่กำลังเรียนอยู่และมีแฟน เลยตัดสินใจไปฝังยาคุมกำเนิดโดยระบุว่า
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวหลังจากที่ไปฝังยาคุมกำเนิดมาแล้ว9วันค่ะ การฝังยาคุมกำเนิดนั้นตามโครงการของรัฐจะรับบริการฟรีต้องอายุต่ำกว่า20ปี
เราอายุ21ปี หลังจากศึกษาข้อมูลมันจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ3,000บาท เราก็เตรียมเงินไปจ่ายแต่พี่พยาบาลแนะนำให้ขอใบส่งตัวจากโรงพยาบาลที่เรามีสิทธิ์รักษาพยาบาลเพื่อที่จะได้ทำฟรีค่ะ (เช็คได้ที่เว็บนี้ http://www.nhso.go.th/peoplesearch/ )…
เราก็ไปติดต่อที่โรงพยาบาลอำเภอ…. แจ้งไปว่าขอใบส่งตัวฝังยาคุมกำเนิด คนลงทะเบียนมองเราตั้งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาที่ดูถูกแล้วหันไปกระซิบกับอีกคนว่า นี่ไงพวกเด็กใจแตก”เราหน้าชามากแต่ก็เก็บอาการ
หลังจากนั้นเราก็นำมายื่นที่โรงพยาบาลจังหวัด… คุณหมอก็สอบถามว่าเคยตั้งครรภ์มั้ย เคยแท้งมั้ย เราก็ตอบว่ายังค่ะตอนนี้เรียนอยู่ อยากป้องกัน…
คุณหมอเลยให้ลองฉีดยาคุมกำเนิดก่อนเพราะตัวยาค่อนข้างแรงกลัวร่างกายเรารับไม่ไหว (ประจำเดือนเรามาล่าสุดวันที่ 5-12 สิงหาคม)
เราฉีดวันที่13สิงหาคม2560 นัดอีกครั้ง3พฤศจิกายน2560 เพื่อมาดูผลและฝังยาคุมกำเนิด หลังจากฉีดยาคุมเรามีเลือดออกกะปริบกะปรอยต้องใส่ผ้าอนามัยแผ่นเล็กทุกวันค่ะ
วันที่3พฤศจิกายน2560เราก็ไปตามนัดค่ะ คุณหมอก็ถามว่าโอเคมั้ยมีผลข้างเคียงหรือเปล่า ไหวใช่มั้ย งั้นไปฝังยากันค่ะ!! (ตื่นเต้นมาก แง กลัวเข็ม)…
คุณหมอถามว่าถนัดข้างไหนจะฝังยาข้างที่เราไม่ถนัดค่ะ (เราถนัดข้างขวาฝังข้างซ้าย) ก็ขึ้นไปนอนบนเตียงคุณหมอก็ทายาฆ่าเชื้อและฉีดยาชา(เจ็บแค่ตอนฉีดยาชาค่ะ)
หลังจากนั้นคุณหมอก็ทำการฝังยาคุมกำเนิดแบบรวดเร็วมาก ติดพลาสเตอร์กันน้ำพันผ้ายืดพันเคล็ดเป็นอันเสร็จ และแนะนำว่าอีก24ชั่วโมงแกะผ้ายืดพันเคล็ดออกได้ แผลห้ามโดนน้ำ7วันและนัดดูอาการวันที่ 10 พฤศจิกายนค่ะ…
ภาพหลังจากทำเสร็จค่ะ ก็ตึงๆนิดนึง ร้อนๆคันๆบอกไม่ถูกค่ะ555 แต่ไม่ปวดนะ
การอาบน้ำ: เราอาบมือเดียว ยกแขนข้างซ้ายขึ้นค่ะ ทุลักทุเลนิดหน่อยแต่ก็ผ่านไปได้
การสระผม: เราสระเอง ก้มหัวสระแล้วก็เอาผ้าขนหนูผืนเล็กพันไว้ค่อยอาบน้ำต่อค่ะ ใครสะดวกสระที่ร้านก็จะดีนะคะ
วันที่1: หลังจากยาชาหมดฤทธิ์ก็ปวดนิดนึงค่ะ กินยาแก้ปวดแล้วนอน
วันที่2: แกะผ้ายืดออกได้แล้วค่ะ พยายามอย่าใช้แรงจากแขนข้างที่ฝังนะคะ แผลจะหายช้า…
วันที่3: ช่วงนี้กินๆนอนๆ ไม่ค่อยใช้แขนข้างซ้าย ฉวยโอกาสใช้งานแฟนค่ะตัวเองหยิบอันนั้นให้เค้าหน่อย555 …
กล่องยาคุมกำเนิดที่ฝังและบัตรประจำตัวค่ะ เก็บให้ดีนะคะเพราะตอนจะเอาออกต้องนำไปด้วยค่ะ
เกือบลืมค่ะ!! 7วันหลังจากฝังยาคุมกำเนิด ยายังออกฤทธิ์ไม่เต็มที่
หากมีเพศสัมพันธ์ต้องป้องกันด้วยนะคะ…
ภาพนี้ถ่ายวันที่10พฤศจิกายน นะคะก่อนจะไปพบหมอตามนัด ไปตอนเช้าคนเยอะมากกกก รอประมาณ2ชั่วโมงก็ได้เข้าพบหมอค่ะ
คุณหมอก็ถามอาการหลังจากฝัง ส่วนตัวเรานอนไม่ค่อยหลับและรู้สึกเวียนหัวหลังจากตื่นนอนตอนเช้าเล็กน้อยค่ะ 2-3 วันก็หาย
คงเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่ไปปรับฮอร์โมนในร่างกายค่ะ คุณหมอแกะพลาสเตอร์กันน้ำออกบอกว่าแผลแห้งปกติดี โดนน้ำได้ แล้วอีก3ปีค่อยมาเอาออกค่ะ…
วันที่9:หลังจากแกะพลาสเตอร์แล้วก็ใช้ชีวิตปกติเลยค่ะมีหน่วงๆตรงแผลบ้างนิดหน่อย…
รอยแผลหลังจากฝังยาคุมกำเนิด 24 วันค่ะ
ตอนนี้ใช้ชีวิตปกติทั่วไปค่ะ ถ้าไม่ไปจับที่แผลก็ไม่รู้สึกผิดปกติค่ะ
เหตุผลที่ตัดสินใจไปทำ:
ตอนนี้เราเรียนอยู่ มีแฟนและมีอะไรกันค่ะ ป้องกันโดยการใส่ถุงยางอนามัย แล้วเคยมีครั้งนึงประจำเดือนคลาดเคลื่อนจากปกติไป7วัน…
ช่วงนั้นเราเครียดมาก กลัวถุงยางรั่ว ยิ่งเครียดยิ่งไม่มา เลยพยายามไม่เครียดดูหนังฟังเพลง เราไม่อยากรู้สึกแบบนั้นอีกแล้วค่ะ
เราเห็นตัวอย่างจากคนใกล้ตัวทั้งเพื่อนพี่น้อง ที่พลาดเพราะไม่ป้องกันแล้วคุณภาพชีวิตของเขามันค่อนข้างไม่ดี ก็ตามที่เราเห็นในสังคมไทยปัจจุบันนี้
เราอยากมีลูกมากรักเด็ก แต่เราอยากมีเค้าตอนที่พร้อมเรียนจบมีงานทำมีบ้านมีรถพร้อมที่จะให้เค้าเกิดมาแบบมีความสุขและเลี้ยงเค้าให้เป็นคนดีค่ะ
สรุป:
แนะนำให้ไปทำค่ะ อาจจะอายบ้างตอนไปขอฝังยาคุม
แต่เชื่อเถอะค่ะ ตอนไปฝากครรภ์ทั้งที่เรายังไม่พร้อม อายุยังน้อยจะรู้สึกอายมากกว่านี้ ไม่ใช่ว่าทำเพื่อแฟน แต่ทำเพื่อตัวเราเองค่ะ
หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ…
ปล.พี่พยาบาลและคุณหมอที่โรงพยาบาลจังหวัดน่ารักมากค่ะสอบถามพูดคุยให้คำแนะนำดีมากค่ะ…
[ หากจะ Copy กรุณาใสเครดิต HotNews69 ]
ขอขอบคุณ : แกงจืดเต้าหู้ / รูปภาพจากอินเตอร์เน็ตทุกแหล่งที่มา ขอขอบพระคุณอย่างยิ่ง
เรียบเรียง/ลำดับภาพโดย : HotNews69