หลวงพ่อโตวัดอินทร์ หรือ หลวงพ่อโตวัดอินทาราม บางขุนพรหม กรุงเทพมหานคร
เป็นพระพุทธรูปยืนปางอุ้มบาตรที่ใหญ่ที่สุดในโลก สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรํสี) ได้เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ 2410
ก่อด้วยอิฐถือปูน แต่ดำเนินการก่อสร้างได้เพียงครึ่งองค์สูงเพียงพระนาภี(สะดือ)
สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรํสี)สิ้นชีพิตักษัย
มีการก่อสร้างต่อเติมมาตลอด ครั้งสุดท้ายในปี พ.ศ. 2467 พระครูอินทรสมาจาร(เงิน อินทรสโร)เจ้าอาวาสวัดอินทรวิหารได้จัดสร้างหลวงพ่อโตจนสำเร็จสมบูรณ์ และจัดให้มีงานสมโภชเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ.2471
พระพุทธรูปยืนปางอุ้มบาตรขนาดใหญ่แห่งเดียวของเมืองไทยและแห่งเดียวในโลก ซึ่งผู้ริเริ่มก่อสร้างคือสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรํสี) เชื่อว่าท่านย่อมมีแนวความคิดสำคัญเป็นพื้นฐานที่ควรนำมาพิจารณาแยกส่วนให้เห็นถึงความจริง เพราะเป็นพระพุทธรูปที่แตกต่างจากพระพุทธรูปที่นิยมสร้างกันทั่วไป จากข้อมูลการสร้างที่ระบุถึงจุดประสงค์ในการสร้างว่า เพื่อเป็นอนุสรณ์ในวัยเยาว์ของท่านที่ได้มาอาศัยอยู่กับญาติพี่น้อง ท่านได้ยืนและเดินอยู่ในย่านนี้ นั้น นับว่าเป็นเหตุผลที่ค่อนข้างจะแคบไปสักหน่อยและห่างไกลจุดหมายที่แท้จริง ความจริงแล้วเรื่องนี้น่าจะมีความหมายโยงใยอยู่กับประวัติของท่านและเหตุการณ์ทางการเมืองการปกครองของไทยในเวลานั้น และในเวลานี้ด้วย
ตามประวัติของท่านกล่าวถึงชาติกำเนิดไว้อย่างน่าสนใจ หลายตำรา หลายตำนานกล่าวถึงบิดาของท่านไว้แตกต่างกัน เช่น บิดาของท่านคือพระยากำแพงเพชร(พระเจ้าตากสิน) บ้าง คือเจ้าพระยาจักรี(ร.1) บ้าง คือ เจ้าพระยาสุรสีห์ หรือสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร(ร.2) บ้าง ด้วยหลักฐานและเหตุผลแตกต่างกัน บิดาของท่านจะเป็นใครก็ตาม ทั้งหมดนั้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลสำคัญในทางการเมือง การปกครองทั้งสิ้น
พระยากำแพงเพชร(พระเจ้าตากสิน)
เจ้าพระยาจักรี(ร.1)
เจ้าพระยาสุรสีห์ หรือสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงอิศรสุนทร(ร.2)
สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรํสี)ท่านย่อมได้รับทราบข้อมูลจากผู้เลี้ยงดูว่าบิดาของท่านเป็นใครและมีความสำคัญอย่างไรหรือมีสิ่งใดบ้างที่เป็นอันตราย ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงปิดบังภูมิหลังของท่านมาโดยตลอดโดยวางตัวให้เป็นบุคคลธรรมดาเหมือนสามัญชนทั่วไป ปฏิเสธยศถาบรรดาศักดิ์ใด ๆ ถึงกระนั้นก็ยังมีการระแวงสงสัยในแต่ละครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในสังคมไทย วงจรของการหวาดระแวงนี้มันเหวี่ยงมาตั้งแต่ครั้งเสียกรุงครั้งล่าสุดแล้ว
สถานการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้น่าจะเป็นที่มาของแนวคิดในการก่อสร้างพระพุทธรูปยืนปางอุ้มบาตรที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ซึ่งมีความหมายชัดเจนว่า คำว่า อุ้มบาตร หมายถึงกิริยาที่พระภิกษุสามเณรขอหรือขอร้อง เช่น เรื่องนี้ขอบิณฑบาตให้เลิกแล้วต่อกัน ให้อภัยกันเถิด ไม่จองเวรซึ่งกันและกัน
แนวคิดของท่านสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรํสี)ในเรื่องนี้นอกจากจะสะท้อนเหตุการณ์ในอดีตในช่วงต้นรัตนโกสินทร์แล้วยังส่งทอดมาถึงสังคมไทยในปัจจุบัน และนั่นก็น่าจะเป็นทางรอดทางเดียวสำหรับสังคมไทยด้วย
ขอขอบคุณ : oknation.nationtv