เล่นเฟสบุ๊คต้องรู้ไว้ !! ทางเดียวที่จะปกป้องข้อมูลส่วนตัวของคุณ ?

Loading...

ในขณะที่ราคาหุ้นของเฟซบุ๊กกำลังตกลงอย่างต่อเนื่อง และแฮชแทก #DeleteFacebook หรือ #ลบเฟซบุ๊ก กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในทวิตเตอร์ขณะนี้ คำถามสำหรับผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายคนคือ ข้อมูลส่วนตัวของเราถูกใครเอาไปใช้บ้าง และเราสามารถทวงคืนมันกลับมาได้หรือเปล่า?

คำถามนี้เกิดขึ้นจากกรณีข้อกล่าวหาที่ว่าบริษัทที่ปรึกษาด้านการเมือง เคมบริดจ์ อนาลิติกา (Cambridge Analytica) นำข้อมูลผู้ใช้เฟซบุ๊กกว่า 50 ล้านคนไปใช้ และล่าสุดคณะกรรมาธิการสอบข้อเท็จจริงของสภาสามัญชนของอังกฤษ ก็ได้เรียกตัว มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งและซีอีโอเฟซบุ๊ก เข้าให้ปากคำ

สำหรับเฟซบุ๊กแล้ว ข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้เป็นสิ่งจูงใจให้บริษัทต่าง ๆ เข้ามาซื้อโฆษณา และเป็นที่รู้กันดีว่าเฟซบุ๊กสามารถเข้าใจตัวตนและสร้างโปรไฟล์ของผู้ใช้ขึ้นมาอย่างละเอียดลึกซึ้งผ่านการกดไลค์ การกดอันไลค์ ดูรูปแบบการใช้ชีวิต และความคิดทางการเมือง ของผู้ใช้และด้วยเหตุนี้ คำถามที่สำคัญก็คือ เฟซบุ๊กได้ให้ข้อมูลเหล่านี้ไปกับใครบ้าง และเราจะทวงคืนข้อมูลส่วนตัวเรากลับมาได้หรือไม่

เราหลายคนอาจเคยเล่น ควิซ หรือ แบบทดสอบบนเฟซบุ๊ก อาจจะเป็นทดสอบบุคลิกส่วนตัวคุณ หรือไม่ก็วัดระดับสติปัญญาหรือไอคิว และแบบทดสอบที่กำลังเป็นที่ถกเถียงอยู่ในขณะนี้คือแบบทดสอบที่ชื่อ This is Your Digital Life โดยบริษัทเคมบริดจ์ อนาลิติกา ถูกกล่าวหาว่าได้ใช้แบบทดสอบนี้เพื่อดึงข้อมูลของผู้ใช้เฟซบุ๊กหลายล้านคนไปใช้เพื่อชักจูงผลโหวตการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อปี 2016

Digital fingerprint

แบบทดสอบเหล่านี้พยายามเชื้อเชิญให้ผู้ใช้เข้าไปทดลองเล่น โดยยืนยันว่าจะมีความปลอดภัยในเรื่องข้อมูล แตส่วนใหญ่แล้วบริษัทเหล่านั้นก็สามารถนำข้อมูลไปใช้ได้เท่าที่เงื่อนไขและกฎเกณฑ์ของเฟซบุ๊กอนุญาต

ในช่วงที่ผ่านมา เฟซบุ๊กได้ปรับเปลี่ยนเงี่อนไขเพื่อลดจำนวนข้อมูลที่บริษัทเจ้าของแอปพลิเคชันเหล่านั้นสามารถนำไปใช้ได้แค่ไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไม่ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลของเพื่อน ๆ ของผู้ใช้อีกทอดหนึ่งได้

ในกรณีของเคมบริดจ์ อนาลิติกา ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่นี้ คณะกรรมาธิการด้านสารสนเทศสหราชอาณาจักร กำลังสอบสวนอยู่ว่าบริษัทดึงข้อมูลผู้ใช้ไปได้มากน้อยเพียงใด

เราจะรักษาข้อมูลส่วนตัวได้อย่างไร?

1. เข้าเฟซบุ๊กของคุณและเข้าไปที่หน้า “App”

2. กด “edit” ที่อยู่ข้างใต้ “Apps”, “Websites”, และ “Plugins”

3. กด “Disable Platform” หรือ “ยกเลิก” การเข้าถึงแอปพลิเคชัน เกมส์ และเว็บไซต์ ในเฟซบุ๊กและที่อื่น ๆ

แต่การตั้งค่าในลักษณะดังกล่าวอาจจะเป็นการจำกัดมากเกินไปเพราะจะทำให้คุณไม่สามารถเข้าถึงเว็บไซต์อื่น ๆ บนเฟซบุ๊กได้เลย ขณะที่อีกทางหนึ่งในการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณก็คือ เข้าไปที่หน้า “App” บนเฟซบุ๊ก และคลิกยกเลิกประเภทข้อมูลที่คุณไม่อยากให้แอปพลิเคชันต่าง ๆ เข้าถึง อาทิ วันเกิด ครอบครัว ศาสนา สิ่งที่คุณโพสต์บนหน้าเฟซบุ๊ก หรือ ความสนใจ เป็นต้น

Max Schrems
คำบรรยายภาพมาร์ค สเคร็มส์ นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิความเป็นส่วนตัว พบว่า เฟซบุ๊กได้เก็บข้อมูลไว้ทั้งหมด ทั้งเลขรหัสประจำคอมพิวเตอร์ หรือ IP Address ของคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่เขาเคยใช้เข้าเฟซบุ๊ก

นอกจากนี้ พอล เบอร์นอล อาจารย์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ทรัพย์สินทางปัญญา และกฎหมายสื่อสารมวลชน จากมหาวิทยาลัยอีสต์แองเกลีย บอกว่า ไม่ให้กดไลค์บนหน้าเพจของผลิตภัณฑ์ และหากจะเล่นเกมส์ หรือแบบสอบถาม ก็ให้เข้าไปเล่นทางเว็บไซต์ของผลิตภัณฑ์เหล่านั้นโดยตรงแทน

เขาบอกว่า การล็อกอินโดยใช้เฟซบุ๊กนั้นสะดวกก็จริง แต่นั่นหมายความว่าเจ้าของแอปพลิเคชันก็จะได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลมากมายของผู้ใช้เฟซบุ๊กได้

#ลบเฟซบุ๊ก

อาจารย์เบอร์นอลบอกว่า มีวิธีเดียวที่จะมั่นใจได้ว่าจะรักษาข้อมูลส่วนตัวของคุณได้จริง ๆ คือการลบเฟซบุ๊กซะเลย เขาบอกว่า สิ่งที่จะกระตุ้นให้เฟซบุ๊กสร้างมาตรการเพื่อปกป้องผู้ใช้อย่างรัดกุมมากขึ้นก็คือเมื่อคนเริ่มเลิกเล่นเฟซบุ๊ก และขณะนี้แฮชแทก #DeleteFacebook หรือ #ลบเฟซบุ๊ก ก็กำลังเป็นที่นิยมอยู่ในทวิตเตอร์

เราจะรู้ได้ไหมว่าข้อมูลเราถูกเก็บไว้ที่ไหนบ้าง?

ภายใต้กฎเกณฑ์การปกป้องข้อมูลของผู้ใช้ที่มีอยู่ ผู้ใช้สามารถยื่นคำร้องขอไปตามบริษัทต่าง ๆ ได้ว่ามีข้อมูลของพวกเขาอยู่แค่ไหน กรณีตัวอย่างหนึ่งคือ เมื่อปี 2011 มาร์ค สเคร็มส์ นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิความเป็นส่วนตัว ได้ยื่นคำร้องขอข้อมูลที่เฟซบุ๊กมีเกี่ยวกับตัวเขา และได้ซีดีหนึ่งแผ่นกลับมา พร้อมกับไฟล์ข้อมูล 1,200 ชิ้น

Generic social media profile

เขาพบว่าเฟซบุ๊กได้เก็บข้อมูลไว้ทั้งหมด ทั้งเลขรหัสประจำคอมพิวเตอร์ หรือ IP Address ของคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่เขาเคยใช้เข้าเฟซบุ๊ก รวมถึงข้อความบทสนทนา ตำแหน่งที่อยู่ หรือแม้กระทั่งสิ่งที่เขาคิดว่าเขาได้ลบทิ้งไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นข้อความ และสิ่งที่โพสต์ลงบนเฟซบุ๊ก

แต่ประเด็นที่สำคัญก็คือ เฟซบุ๊กได้แชร์ข้อมูลเหล่านั้นให้กับบริษัทอื่น ๆ ด้วย และคำถามของอาจารย์เบอร์นอลก็คือ เราจะขอข้อมูลกลับมาได้อย่างไรในเมื่อเรายังไม่รู้เลยว่าจะไปขอที่ไหน

อีกทางเลือกหนึ่งคือ คุณสามารถลบบัญชีเฟซบุ๊กของคุณทิ้งได้ แต่ต้องไม่ลืมว่า ข้อมูลมหาศาลเกี่ยวกับคุณก็จะยังคงอยู่ในฐานข้อมูลบัญชีเฟซบุ๊กของเพื่อนของคุณอยู่ดี

ขอขอบคุณ :  bbc  /  thairathNews69 / รูปภาพจากอินเตอร์เน็ตทุกแหล่งที่มา ขอขอบพระคุณอย่างยิ่ง
เรียบเรียง/ลำดับภาพโดย : HotNews69

Loading...

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *